การพัฒนาบุคลากร

โครงสร้างการบริหารการพัฒนาบุคลากรกีฬา

สมาคมกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคแห่งประเทศไทย (Special Olympics Association of Thailand, SOT)  และสหพันธ์สเปเชียลโอลิมปิคสากล(Special Olympics International, SOI) ได้แบ่งระดับบุคลากรกีฬาสเปชียลโอลิมปิคของผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน และกรรมการเทคนิค ในชนิดกีฬาหลัก ได้แก่ กรีฑา(ลู่ลาน) ว่ายน้ำ ฟุตบอล บอชชี่ เทเบิลเทนนิส แบดมินตัน บาสเกตบอล และคริกเก็ต ดังนี้

  • ผู้ฝึกสอน

แบ่งเป็น ระดับชาติ 3 ระดับ และระดับนานาชาติ 2 ระดับ

ที่

ระดับ (Level)ระยะเวลาอบรมหน่วยงานรับรองออกใบอนุญาต

เทียบระดับ

1

พื้นฐาน (Level 1)

4 วัน

สมาคมกีฬาสเปเชียลแห่งประเทศไทย

ชาติ

2

พัฒนา (Level 2)

4 วัน

สมาคมกีฬาสเปเชียลแห่งประเทศไทย

ชาติ

3

สูง (Level 3)

5 วัน

สมาคมกีฬาสเปเชียลแห่งประเทศไทย

ชาติ

4

ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน (Assistant Coach)

5 วัน

สหพันธ์สเปเชียลโอลิมปิคสากล

นานาชาติ

5

หัวหน้าผู้ฝึกสอน (Head Coach)

5 วัน

สหพันธ์สเปเชียลโอลิมปิคสากล

นานาชาติ

หลักเกณฑ์และคุณสมบัติในการเลื่อนระดับ

  1. ระดับพื้นฐาน (Level 1)

คุณสมบัติ

    1. เป็นผู้ฝึกสอนของสโมสรสมาชิกสมาคมกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคแห่งประเทศไทย เห็นสมควรเข้ารับการอบรมเพื่อทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนของสโมสรต่อไป
    1. เป็นผู้ฝึกสอนที่รับผิดชอบการเรียนการสอนของนักกีฬาที่พิการหรือบกพร่องทางสติปัญญา

 

  1. ระดับพัฒนา (Level 2)

คุณสมบัติ

    1. ต้องผ่านการอบรมผู้ฝึกสอนกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคระดับพื้นฐาน
    2. ผ่านการทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนในการนำนักกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคเข้าร่วมการแข่งขันอย่างน้อย 2 รายการแข่งขัน
    3. ไม่ได้ถูกขึ้นทะเบียนคาดโทษผู้ฝึกสอนในการแข่งขันใด ๆ

 

3.  ระดับสูง (Level 3)

คุณสมบัติ

    1. ต้องผ่านการอบรมผู้ฝึกสอนกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคระดับพัฒนา
    2. ผ่านการทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนในการนำนักกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคเข้าร่วมการแข่งขันอย่างน้อย 4 รายการแข่งขัน
    3. ผ่านการทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนในรายการแข่งขันสเปเชียลโอลิมปิคระดับชาติ และระดับชิงแชมป์ประเทศไทย
    4. ไม่ได้ถูกขึ้นทะเบียนคาดโทษผู้ฝึกสอนในการแข่งขันใด ๆ

 

  • ผู้ตัดสิน

แบ่งเป็น ระดับชาติ 2 ระดับ และระดับนานาชาติ 1 ระดับ

ที่ระดับ (Level)ระยะเวลาอบรมหน่วยงานรับรองออกใบอนุญาตเทียบระดับ
1ภูมิภาค/เขต (Zone)2 วันสมาคมกีฬาสเปเชียลแห่งประเทศไทยชาติ
2ชาติ (National)3 วันสมาคมกีฬาสเปเชียลแห่งประเทศไทยชาติ
3สากล (International)4 วันสหพันธ์สเปเชียลโอลิมปิคสากลนานาชาติ

หลักเกณฑ์และคุณสมบัติในการเลื่อนระดับ

  1. ระดับภูมิภาค/เขต (Zone)

คุณสมบัติ

    1. ต้องผ่านการบอบรมผู้ตัดสินกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคในชนิดกีฬาที่รับผิดชอบ
    2. ผ่านการตัดสินกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคของหน่วยงานภายในจังหวัดไม่น้อยกว่า 5 รายการแข่งขัน
    3. ผ่านการเป็นกรรมการอาสามัครของสมาคมกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ไม่น้อยกว่า 3 รายการแข่งขัน
  1. ระดับชาติ (National)

คุณสมบัติ

    1. ต้องผ่านการอบรมผู้ตัดสินกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคไทยระดับภูมิภาค
    2. ผ่านการตัดสินกีฬาสเปเชียลโอลิมปิค ในระดับการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ หรือ ชิงแชมป์ประเทศไทยไม่น้อยกว่า 5 รายการแข่งขัน
  1. ระดับสากล (International)

คุณสมบัติ

    1. ต้องผ่านการอบรมผู้ตัดสินกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคแห่งชาติ และการอบรมผู้ตัดสินกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคสากล
    2. ผ่านการตัดสินกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคนานาชาติไม่น้อยกว่า 1 รายการ

 

  • กรรมการเทคนิค

แบ่งออกเป็น  ระดับชาติ 1 ระดับ และระดับนานาชาติ 2 ระดับ

ที่ระดับ (Level)ระยะเวลาอบรมหน่วยงานรับรองออกใบอนุญาตเทียบระดับ
1ชาติ (National)5 วันสมาคมกีฬาสเปเชียลแห่งประเทศไทย

ชาติ(Train-the-Trainer)

2ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค(Asia Pacific)6 วันสหพันธ์สเปเชียลโอลิมปิคสากลนานาชาติ
3สากล (International)7 วันสหพันธ์สเปเชียลโอลิมปิคสากลนานาชาติ

หลักเกณฑ์และคุณสมบัติในการเลื่อนระดับ

  1. ระดับชาติ (National)

คุณสมบัติ

    1. เป็นผู้ที่สมาคมกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคแห่งประเทศไทย เห็นสมควรเข้ารับการอบรมเพื่อทำหน้าที่กรรมการ
    2. เทคนิค  หรือเป็นผู้ที่ผ่านการเป็นกรรมการเทคนิคสเปเชียลโอลิมปิคไม่น้อยกว่า 2 รายการแข่งขัน

2. ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค (Asia Pacific)

คุณสมบัติ

    1. ต้องผ่านการอบรมกรรมการเทคนิคสเปเชียลโอลิมปิคระดับชาติ
    2. ผ่านการเป็นกรรมการเทคนิคสเปเชียลโอลิมปิคระดับชาติไม่น้อยกว่า 4 รายการแข่งขัน

3. สากล (International)

คุณสมบัติ

    1. ต้องผ่านการอบรมกรรมการเทคนิคสเปเชียลโอลิมปิคระดับเอเชียแปซิฟิค
    2. ผ่านการเป็นกรรมการเทคนิคสเปเชียลโอลิมปิคระดับเอเชียแปซิฟิคไม่น้อยกว่า 2 รายการแข่งขัน